รู้จักกลุ่มสมอทอง
ประวัติความเป็นมา
ประวัติความเป็นมาของบริษัท
บริษัท กลุ่มสมอทอง จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (“กลุ่มบริษัท” หรือ “SMO”) ประกอบการธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง และธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพเพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัท สามารถจำแนกได้ 2 กลุ่มคือ
ธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องโดยมีผลิตภัณฑ์หลัก คือ น้ำมันปาล์มดิบ (Crude Palm Oil หรือ “CPO”) เมล็ดในปาล์ม (Palm Kernel หรือ “PK”) นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์พลอยได้ (“By-products”) ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิต เช่น กะลาปาล์ม ทะลายสับ เส้นใย และอื่นๆ
ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพผ่านการนำผลิตภัณฑ์พลอยได้จากกระบวนการผลิตน้ำมันปาล์มดิบมาหมักในบ่อด้วยจุลินทรีย์เพื่อให้ได้ก๊าซชีวภาพ (“Biogas”) และนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้ภายในกิจการ และจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
กลุ่มบริษัทมีจุดเริ่มต้นจาก บริษัท สมอทอง น้ำมันปาล์ม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแรกของกลุ่มบริษัท จัดตั้งขึ้นในปี 2546 เพื่อประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ ตั้งอยู่ที่ตำบลประสงค์ อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเริ่มประกอบการในเชิงพาณิชย์ในปี 2553 มีกำลังการผลิตติดตั้ง 45 ตันผลปาล์มสดต่อชั่วโมง (ปัจจุบันคือโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มดิบ สาขาท่าชนะ ของกลุ่มบริษัท)

จากความรู้ ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญที่ประกอบกันของฝ่ายบริหารอย่างลงตัว ส่งผลให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างราบรื่น และเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ฝ่ายบริหารจึงเล็งเห็นโอกาสของธุรกิจปาล์มน้ำมัน จึงได้มีแนวคิดในการขยายธุรกิจในพื้นที่อื่นเพิ่มเติมผ่านการจัดตั้งบริษัท สมอทองปาล์ม 2 จำกัด, บริษัท สมอทองปาล์ม 3 จำกัด, และบริษัท สมอทองปาล์ม 4 (สระบุรี) จำกัด ในเวลาต่อมา
ต่อมาในปี 2560 ได้มีการควบรวมกิจการ (Amalgamation) จากบริษัทที่อยู่ภายใต้กลุ่มผู้ถือหุ้น กรรมการและกลุ่มผู้บริหารหลักกลุ่มเดียวกัน จำนวน 4 บริษัท เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2560 กลายมาเป็น บริษัท กลุ่มสมอทอง จำกัด
ถัดมาในปี 2567 กลุ่มบริษัทได้ตัดสินใจเข้าซื้อกิจการบริษัท เอแอล น้ำมันปาล์ม จำกัด ตั้งอยู่ที่ตำบลทุ่งตะไคร อำเภอเขาตะโก จังหวัดชุมพร โดย ประกอบธุรกิจผลิตน้ำมันปาล์มดิบ และผลิตกระแสไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพเพื่อขายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเช่นเดียวกับธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัท การได้มาซึ่งกิจการดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มบริษัท ทั้งในด้านปริมาณสินค้า การบริหารต้นทุน ค่าขนส่ง เป็นต้น
ต่อมาเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 บริษัทได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปัจจุบันกลุ่มบริษัท ประกอบด้วย บริษัท กลุ่มสมอทอง จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทใหญ่ และบริษัทย่อยอีก 3 บริษัท โดยมีรายละเอียดดังนี้
บริษัท เอ แอล ปาล์ม จำกัด
ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ และผลิตกระแสไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพเพื่อขายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
บริษัท มิตรประสงค์กรีนเพาเวอร์ จำกัด
ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพ เพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
บริษัท ทีมอีโวลูชั่น จำกัด
จัดตั้งขึ้นร่วมกับบริษัทผลิตน้ำมันปาล์มดิบ 9 บริษัท มีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล ปัจจุบันยังไม่มีการประกอบธุรกิจ
ด้วยประสบการณ์ในการทำธุรกิจที่ยาวนาน และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของผู้บริหารแต่ละท่านที่รวมกันได้อย่างลงตัว มากกว่า 20 ปี เป็นผลให้กลุ่มบริษัทสามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การบริหารงานของผู้บริหารหลัก ได้แก่ คุณกิตติพงษ์ พวงมาลา คุณเสกศักดิ์ พิริเยศยางกูร คุณโจซ์สัน ลิม และ คุณกุศล ศรีเปารยะ จึงทำให้กลุ่มบริษัท เป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันปาล์มดิบอันดับต้น ๆ ของประเทศ และมีส่วนสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มของประเทศไทย รวมถึงมีส่วนช่วยสร้างความมั่นคงทางพลังงานและอาหารให้กับประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อม
โดยตลอดระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทมีการปรับปรุงพัฒนากระบวนการดำเนินงาน และการผลิตอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การบริหารจัดการที่เป็นระบบ และยึดมั่นในจริยธรรม และมีธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจ ส่งผลให้กลุ่มบริษัทได้รับการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานหลากหลายแห่ง อาทิ มาตรฐานปาล์มน้ำมันที่ยั่งยืน (Roundtable on Sustainability Palm Oil: RSPO), มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 2 (Green Industry), มาตรฐานสุขลักษณะและข้อกำหนดที่ดีในการผลิตอาหาร (Good Hygiene Practice : GHP), มาตรฐาน Kosher มาตรฐานระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001, มาตรฐานความสามารถห้องปฏิบัติการทดสอบ ISO/IEC 17025:2018 เป็นต้น