ความยั่งยืน

นโยบายความยั่งยืน

นโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainability Policy)

บริษัท กลุ่มสมอทอง จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) และบริษัทย่อย มุ่งมั่นในการพัฒนาและดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ด้วยการดำเนินธุรกิจตามหลักการกำกับดูแลกิจการ รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อลดความเสี่ยงและส่งผลให้องค์กรเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (“นโยบาย”) ขึ้น เพื่อแสดงเจตนารมณ์และกำหนดแนวทางในการพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน ด้วยการกำหนดทิศทาง กลยุทธ์ และการพัฒนาธุรกิจให้สอดคล้องกับบริบทขององค์กรและความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่งจะนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีกระบวนการขับเคลื่อนธุรกิจ 5 ขั้นตอนดังนี้

1. การวิเคราะห์บริบทขององค์กร ความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจ และผู้มีส่วนได้เสีย

  1. ศึกษาและทำความเข้าใจบริบทขององค์กร โดยศึกษาและวิเคราะห์จากวิสัยทัศน์ พันธกิจ วัฒนธรรมองค์กร ห่วงโซ่คุณค่า แผนกลยุทธ์ ความเสี่ยงและโอกาสทางธุรกิจ ตลอดจนทิศทางและแนวโน้มของอุตสาหกรรม
  2. ระบุและวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้เสีย การวิเคราะห์ประเด็นที่ผู้มีส่วนได้เสียและธุรกิจมีผลกระทบต่อกันพร้อมกำหนดวิธีการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสีย
  3. กำหนดและจัดลำดับประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน โดยพิจารณาจากผลกระทบที่ทั้งธุรกิจและผู้มีส่วนได้เสียให้ความสำคัญทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการดำเนินงานอย่างยั่งยืน และจัดลำดับความสำคัญของประเด็นด้านความยั่งยืนเพื่อนำมากำหนดทิศทาง กลยุทธ์ และแนวทางการพัฒนาธุรกิจให้สอดคล้องกับบริบทขององค์กรและความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสีย

2. การกำหนดนโยบายและบทบาทและหน้าที่รับผิดชอบ

กำหนดนโยบายและเป้าหมายในการบริหารจัดการความยั่งยืนในระดับองค์กร และการกำหนดผู้รับผิดชอบและบทบาทหน้าที่ในการขับเคลื่อนประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน แต่ละประเด็นเพื่อให้เกิดการทำงานที่เชื่อมโยงกัน ดังนี้

2.1 คณะกรรมการบริษัท มีหน้าที่รับผิดชอบ ดังนี้

  1. กำหนดนโยบายและกำกับดูแลกิจการให้นำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม เคารพสิทธิและมีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสีย เป็นประโยชน์ต่อสังคม พัฒนาหรือลดผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อม
  2. กำกับ ดูแลให้มีการวิเคราะห์สภาพแวดล้อม ปัจจัยและความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจมีผลกระทบผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องตลอดสาย (Value Chain) รวมทั้งปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจมีผลต่อการบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายของบริษัท
  3. กำกับดูแลให้มีการสื่อสารเพื่อให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกคนเข้าใจ มีกลไกเพียงพอที่เอื้อให้มีการปฏิบัติจริงตามนโยบาย ติดตามผลการปฏิบัติ และทบทวนนโยบายและการปฏิบัติเป็นประจำ

2.2 คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง มีหน้าที่รับผิดชอบ ดังนี้

  1. พิจารณาและให้ความเห็นชอบทะเบียนความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทมีการบริหารความเสี่ยงที่เพียงพอและเหมาะสม
  2. ให้การสนับสนุนกระบวนการและกิจกรรมการบริหารความเสี่ยง รวมทั้งการพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน

2.3 คณะกรรมการบริหาร มีหน้าที่รับผิดชอบ ดังนี้

  1. กำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ และวัฒนธรรมองค์กร และแผนกลยุทธ์ และกรอบการบริหารจัดการองค์กรในภาพรวม เพื่อเป้าหมายด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน
  2. กำหนดนโยบาย กรอบและแนวปฏิบัติในการพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน รวมถึงการทบทวนนโยบายเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อความสอดคล้องและเหมาะสมกับสภาพการดำเนินธุรกิจ และเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทพิจารณาอนุมัติ
  3. กำกับ ดูแล การดำเนินงานด้านความยั่งยืนขององค์กร และการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนต่อผู้มีส่วนได้เสีย รวมถึงการทบทวนเพื่อปรับปรุงและพัฒนาผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
  4. กำกับดูแลให้มีการสื่อสาร เพื่อให้บุคลากรทุกคนเข้าใจ และมีกลไกเพียงพอที่เอื้อให้ปฏิบัติได้จริงตามนโยบาย

2.4 คณะทำงานบริหารความเสี่ยง มีหน้าที่รับผิดชอบ ดังนี้

  1. พิจารณา สอบทาน และกลั่นกรองการวิเคราะห์ การระบุ และการประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลกิจการ สังคมและสิ่งแวดล้อม และการจัดทำแผนบริหารความเสี่ยงเพิ่มเติม เพื่อให้มั่นใจว่ากิจการจะบรรลุวัตถุประสงค์การพัฒนาอย่างยั่งยืน
  2. ดำเนินการบริหารความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามกระบวนการบริหารความเสี่ยงที่กำหนดขึ้น เช่น ความเสี่ยงเกี่ยวกับความบกพร่องในมาตรการกำกับดูแล การไม่ได้รับอนุญาตการก่อสร้างจากหน่วยงานราชการ การไม่เปิดเผยข้อมูลที่มีนัยสำคัญ การละเมิดสิทธิมนุษยชน การไม่ผ่านกฎระเบียบที่พิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ชุมชนไม่เห็นด้วยกับการสร้างโรงงานในพื้นที่ใกล้เคียง การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ การขาดแคลนน้ำ และโรงงานส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมต่อชุมชน เป็นต้น

2.5 ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานสำนักงาน ผู้อำนวยการ สายงานสำนักงาน มีหน้าที่รับผิดชอบ ดังนี้

  1. ผลักดันงานการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้เป็นไปตามกรอบนโยบายที่กำหนด
  2. สื่อสารงานด้านความยั่งยืนขององค์กร เพื่อให้บุคลากรทุกคนเข้าใจ และมีกลไกเพียงพอที่เอื้อให้ปฏิบัติได้จริงตามนโยบาย
  3. กำกับ ดูแล การดำเนินงานด้านความยั่งยืนขององค์กร และการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนต่อผู้มีส่วนได้เสีย รวมถึงการทบทวนเพื่อปรับปรุงและพัฒนาผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง

2.6 แต่ละฝ่ายมีหน้าที่รับผิดชอบตามบทบาท หน้าที่รับผิดชอบในการทำงานของฝ่ายตนเอง ยกตัวอย่าง เช่น

  • ฝ่ายระบบบริหารคุณภาพ ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม มีหน้าที่ในการควบคุมดูแล มาตรฐานด้านอาชีวอนามัย ความปลอดภัย การส่งเสริมกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคม รวมทั้งบริหารจัดการผลกระทบและโอกาสที่เกิดขึ้นจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม หรืออื่น ๆ ที่ได้รับมอบหมาย
  • ฝ่ายโรงงานสาขา ฝ่ายก๊าซชีวภาพ มีหน้าที่ในการดูแลกระบวนการผลิตที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม บริหารจัดการน้ำเสียจากระบวนการผลิต การลดการใช้พลังงาน ส่งเสริมความเท่าเทียมกันของพนักงานคนไทยและต่างด้าว และการส่งเสริมกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคม
  • ฝ่ายทรัพยากรบุคคล มีหน้าที่ในการดูแลด้านมาตรฐานแรงงาน สิทธิมนุษยชนและชุมชน และกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคม
  • สำนักงานเลขานุการบริหาร มีหน้าที่ในการกำกับดูแลเอกสาร สัญญา ใบอนุญาต เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี
  • เลขานุการบริษัท มีหน้าที่ในการกำกับดูแลเอกสารทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี
  • ฝ่ายขายและการตลาดในประเทศ/ต่างประเทศ ฝ่ายควบคุมคุณภาพและฝ่ายโลจิสติกส์ มีหน้าที่ ตอบสนองต่อความต้องการ และสร้างความพึงพอใจของลูกค้า ทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพของสินค้าและบริการตามสัญญาอย่างครบถ้วน
  • ฝ่ายวิศวกรรมโครงการ มีหน้าที่ควบคุมดูแลการลงทุนที่คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน เพื่อให้การลงทุนของบริษัทและบริษัทย่อย สนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน
  • ฝ่ายกลยุทธ์องค์กร มีหน้าที่ในการร่างแผนกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ไปพร้อมกับการบริหารจัดการความเสี่ยงให้ครอบคลุมปัจจัยเสี่ยงด้านการกำกับดูแลกิจการ สังคมและสิ่งแวดล้อม
  • ฝ่ายบัญชี มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดทำรายงานทางการเงินให้เป็นไปตามมาตรฐานการบัญชี ไม่มีการตกแต่งงบการเงิน และความโปร่งใสเกี่ยวกับภาษี
  • ฝ่ายการเงิน มีหน้าที่รับผิดชอบในการควบคุม ดูแล ไม่ให้เกิดการทุจริตทางการเงิน
  • ฝ่ายจัดซื้อวัตถุดิบ ฝ่ายจัดซื้อทั่วไป มีหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารจัดการคู่ค้าในห่วงโซ่อุปทาน
  • ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ มีหน้าที่รับผิดชอบให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลและการเข้าถึงข้อมูลขององค์กร และการใช้นวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อลดผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงทางด้านการกำกับดูแลกิจการ สังคมและสิ่งแวดล้อม

3. การกำหนดกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนขององค์กร

  1. การกำหนดกรอบหรือกลยุทธ์ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน
    บริษัทและบริษัทย่อยกำหนดกลยุทธ์ในการพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืนระยะสั้น ปานกลางและระยะยาว ทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งประเมินปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลกิจการ สังคมและสิ่งแวดล้อม และแผนบริหารความเสี่ยง เพื่อให้องค์กรบรรลุเป้าหมายด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน
  2. การกำหนดแผนงานด้านความยั่งยืน
    กำหนดแผนปฏิบัติการด้านความยั่งยืนในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อดำเนินการในเรื่องที่เป็นประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนขององค์กรตามลำดับความสำคัญ โดยกำหนดตัวชี้วัดที่ชัดเจน เพื่อให้ผู้รับผิดชอบในการขับเคลื่อนแผนการดำเนินงานด้านความยั่งยืน มีกรอบการทำงานที่ชัดเจนและสามารถประเมินคุณค่าหรือมูลค่าที่สร้างให้แก่ธุรกิจได้

4. แนวนโยบายในการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน

4.1 ด้านการกำกับดูแลกิจการ (บรรษัทภิบาล)

  1. กำหนดกลยุทธ์ วิสัยทัศน์ นโยบาย เป้าหมายและภารกิจที่สร้างคุณค่าให้กิจการอย่างยั่งยืน รวมถึง ติดตาม ดูแลฝ่ายจัดการให้นำกลยุทธ์ไปปฏิบัติ และดูแลผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างเป็นธรรม สนับสนุนการมีส่วนร่วม และการสื่อสารกับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม รวมทั้งการฝึกอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับประเด็นการกำกับดูแลกิจการ สังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นประจําทุกปี
  2. ดูแลระบบการควบคุมภายใน บริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมาย รวมทั้งการรักษาความน่าเชื่อถือทางการเงิน และการเปิดเผยข้อมูล
  3. ปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์ ความยุติธรรม ความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจ พร้อมทั้งยึดถือและปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับในการทำงาน จรรยาบรรณทางธุรกิจ และนโยบายที่เกี่ยวข้อง เช่น นโยบายการกํากับดูแลกิจการ นโยบายต่อต้านคอร์รัปชัน นโยบายป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ การรับเรื่องร้องเรียน การใช้ข้อมูลภายใน นโยบายและแนวปฏิบัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น พร้อมทั้งปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับและหลักเกณฑ์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นต้น
  4. ส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสิทธิผล รวมถึงการสร้างคุณค่าให้แก่องค์กรและผู้มีส่วนได้เสีย
  5. แสวงหาแนวทางพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานในทุกกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยมีการกำหนดเป้าหมาย วิธีการวัดผล การติดตาม และการประเมินความยั่งยืนของกิจกรรม
  6. ส่งเสริมและสนับสนุนให้พันธมิตร คู่ค้า และผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่อุปทานดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน

4.2 ด้านสังคม

4.2.1 มาตรฐานแรงงาน สิทธิมนุษยชน

  1. บริหารจัดการบุคลากรด้วยความเป็นธรรม ฝึกอบรมและพัฒนาความสามารถ รวมทั้งการดูแลให้เกิดความสุขในการทำงาน นำไปสู่การขับเคลื่อนองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  2. ปฏิบัติต่อพนักงานและลูกจ้างของบริษัทและบริษัทย่อยและ/หรือคู่ค้า โดยคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่มีมาแต่กำเนิดและความเสมอภาคที่จะไม่ถูกเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเชื้อชาติ ศาสนา เพศ สีผิว ภาษา เผ่าพันธุ์ หรือสถานะอื่นใด
  3. ส่งเสริมการปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจตามหลักการชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ทั้งการคุ้มครอง การเคารพสิทธิมนุษยชน และการเยียวยา รวมถึงการให้ความเคารพต่อขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่น
  4. ดูแลและคุ้มครองความปลอดภัยของพนักงานและลูกจ้าง และทรัพย์สินของบริษัทและบริษัทย่อย โดยไม่กระทบกับสิทธิและความปลอดภัยของผู้อื่น รวมทั้งปกป้องสิทธิส่วนบุคคล การเก็บรักษาความลับ การเปิดเผยข้อมูล และการใช้ประโยชน์ข้อมูลส่วนบุคคล
  5. ห้ามการจ้างแรงงานที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี และแรงงานผิดกฎหมาย โดยครอบคลุมถึงพนักงานและลูกจ้างของคู่ค้าและ/หรือผู้มีส่วนได้เสีย

4.2.2 ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย

  1. กระตุ้นจิตสำนึกและปลูกฝังวัฒนธรรมด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน
  2. ห่วงใยและให้ความสำคัญต่อความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานของพนักงาน คู่ค้า ผู้มาติดต่อ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัย ป้องกันการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยอันเนื่องมาจากการทำงาน และกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และทำงานได้เต็มศักยภาพและขีดความสามารถ
  3. กำหนดเป้าหมายอุบัติเหตุจากการทำงานเป็น “ศูนย์” และยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยให้สูงกว่าที่กฎหมายกำหนด

4.3 ด้านชุมชน

  1. กำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติเพื่อให้มั่นใจว่าสามารถดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบต่อชุมชนในกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดห่วงโซ่คุณค่า เพื่อสร้างการอยู่ร่วมกันกับชุมชนอย่างยั่งยืน
  2. มีส่วนร่วมสร้างสรรค์สังคมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในสังคมให้พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ด้วยการจ้างงานและการใช้วัตถุดิบผลปาล์มน้ำมันจากชุมชน รวมถึงการสนับสนุนการผลิตปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มดิบอย่างยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน เช่น กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มสมอทองเพื่อการผลิตปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพื่อการผลิตปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน (ท่าชนะ-ไชยา)
  3. ตอบสนองต่อความต้องการ และสร้างความพึงพอใจของลูกค้า ทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพของสินค้าและบริการตามสัญญาอย่างครบถ้วน
  4. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนและผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง ด้วยการเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็น การปรึกษาหารืออย่างโปร่งใสและสร้างสรรค์ ปฏิบัติต่อกันอย่างเท่าเทียม และเคารพในความแตกต่าง
  5. ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ สมาคมอุตสาหกรรม พันธมิตรธุรกิจ ภาคประชาสังคม และผู้มีส่วนได้เสียอื่น ๆ เพื่อการพัฒนา ประยุกต์ใช้มาตรฐานและวิธีปฏิบัติด้านความยั่งยืน

4.4 ด้านสิ่งแวดล้อม

  1. การบริหารจัดการพลังงานอย่างรู้คุณค่าเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งพิจารณาทางเลือกของการใช้พลังงานทดแทน เช่น พลังงานชีวมวล พลังงานแสงอาทิตย์ มาแทนที่การใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลที่มีอยู่อย่างจำกัด
  2. การบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด การลดการใช้น้ำ การนำน้ำกลับมาใช้ซ้ำ และการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่หลังการบำบัด
  3. การบริหารจัดการขยะ ของเสีย และมลพิษ โดยลดการใช้ การนำกลับไปใช้ซ้ำหรือรีไซเคิล การปรับกระบวนการผลิต และส่งเสริมให้เกิดระบบเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน (Circular Economy) การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในกระบวนการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงช่วยสร้างจิตสำนึกเพื่อมีส่วนในการสร้างการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ดูแลสิ่งแวดล้อมด้วย
  4. การบริหารจัดการเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) ขององค์กร และกำหนดเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งการซื้อขายคาร์บอนเครดิตและดำเนินกิจกรรมชดเชยคาร์บอนเพื่อลดผลกระทบจากกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
  5. การจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพตามเกณฑ์ของกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ลงทุน พัฒนา และปรับปรุงระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม รวมทั้งแสวงหามาตรการและวิธีการใหม่ ๆ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการจัดการและควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้น

5. การเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืน (Disclosure)

  1. เปิดเผยนโยบายการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ข้อมูลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนและผลการดำเนินงานในทุกมิติ ตามหลักเกณฑ์และข้อกำหนดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนมาตรฐานที่สากลยอมรับอย่างเพียงพอ โปร่งใส และในเวลาที่เหมาะสม เพื่อแสดงเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน
  2. เปิดเผยนโยบายฉบับนี้แก่บุคลากรของบริษัทและบริษัทย่อย และผู้มีส่วนได้เสียได้รับทราบและถือปฏิบัติในการปฏิบัติงานและดำเนินธุรกิจกับบริษัท

6. การปฏิบัติตามนโยบาย

บุคลากรของบริษัทและบริษัทย่อยมีหน้าที่สนับสนุน ส่งเสริมและปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาความยั่งยืน จนกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่คำนึงถึงผลประโยชน์ที่สมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

7. ทบทวน

บริษัทจะเสนอต่อคณะกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณาทบทวนนโยบายฉบับนี้ตามความเหมาะสม อย่างน้อย ปีละ 1 ครั้ง

นโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัท กลุ่มสมอทอง จำกัด (มหาชน) ฉบับนี้ ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิก

นายสุรชัย จิตตรัตน์เสนีย์
ประธานกรรมการ

Logo

บริษัท กลุ่มสมอทอง จำกัด (มหาชน)

119/1 หมู่ที่ 10 ตำบลประสงค์ อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84170
โทรศัพท์: 077-951470-4 โทรสาร: 077-951471

©2025 Smothong Group PLC, All rights reserved.

designed by Indigo International